สวัสดีค่ะ บล็อคนี้จ๊ะจ๋าจะพาไปอิ่มอร่อยกันที่ร้าน ร.ศ.๒๓๔ ค่ะ
ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 24 ค่ะ ถ้าขับรถมาก็มีบริการ Valet ให้ค่ะ หรือถ้าเบื่อรถติดก็ขึ้น BTS มาลงที่สถานีพร้อมพงษ์ ออกประตูฝั่งเอ็มโพเรียม แล้วจะเรียกวินมอเตอร์ไซค์หรือเรียกแท็กซี่เข้ามาที่ร้านก็ได้ค่ะ ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ อาจจะสังเกตุป้ายร้านยากสักหน่อยเพราะค่อนข้างเล็กค่ะ ก็ให้มองทางขวา ถ้าเจอคอนโด Le Raffine คือถึงที่หมายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วค่ะ เดินเข้ามาแล้วผ่านร้านตัดผม เดินเข้าไปจนสุดถึงจะเจอร้านอาหารค่ะ
เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 11.00 น. – 24.00 น.
ร้านร.ศ.๒๓๔ มาจากปีที่เปิดบริการปี 2558 แต่ใช้เป็นวิธีการนับแบบสมัยก่อน ช่วงที่เปิดแรกๆนั้นก็ดังอยู่ไม่น้อยเลย หลายคนต่างก็อยากมาลองทานอาหารที่ร้านนี้ ด้วยการตกแต่งที่ใช้เฟอร์นิเจอร์เก่ามาตกแต่งร้านในสไตล์ยุโรปสมัยก่อนบวกกับสมัยใหม่ ทำให้ดูแปลกตาดี แต่ละโต๊ะก็จะไม่ซ้ำกัน คือดูมีอะไร ก่อนหน้านี้ทางร้านมีขายทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง แต่ส่วนใหญ่คนที่นึกถึงร้านนี้ก็มักจะนึกถึงอาหารไทยเสียมากกว่า ทางร้านก็เลยปรับเมนูอาหารเหลือแต่อาหารไทยแล้วค่ะ
มีขนมเค้กด้วยนะ เผื่ออยากจะมาจิบชายามบ่ายนั่งพูดคุยกับเพื่อนก็ได้
ที่นี่มีชาหอมๆน่าดื่มด้วย ทางร้านเค้าก็จะนำเสนอชากุหลาบที่ใช้กุหลาบออแกนิค สามารถทานกลีบกุหลาบได้ด้วยล่ะ
ม้าฮ่อ เป็น Appetizer ที่ทางร้านเสิร์ฟให้ลูกค้า 1 ชิ้นต่อ 1 ท่าน
จ๊ะจ๋าไม่เคยได้ยินชื่อเมนูนี้มาก่อนเลยค่ะ ไม่รู้จักเลยสักนิด วันนี้ก็ได้ลองทานดู มันคืออาหารว่างแบบไทยโบราณ ด้านล่างเป็นสับปะรด ด้านบนเป็นเนื้อหมูสับละเอียดที่มีรสชาติหวานๆให้นึกถึงสาคูไส้หมูประมาณนั้น พอทานกับสับปะรดเปรี้ยวๆคืออร่อยเลย
สะเต๊ะไก่ ( 120 บาท )
ที่นี่ใช้เนื้ออกไก่ ไม่มีไขมันมาทำสะเต๊ะ ชิ้นจะหนาๆหน่อย รสชาติจะเค็มนำ ทานคู่กับน้ำจิ้มหวานมัน
ยำส้มโอ ( 150 บาท )
จานนี้อร่อยดีค่ะ ส้มโอหวานๆ มีหอมเจียว รสชาติจะแตกต่างจากที่อื่นตรงที่มีกะทิที่มีอยู่ในส่วมผสมของยำส้มโอจานนี้ด้วย อร่อย หอม หวาน มัน
ไข่เจียวทอดกรอบ ( 100 บาท )
เป็นไข่เจียวที่ไม่มีไส้อะไรเลย ดูเผินๆก็เหมือนกับไข่เจียวทั่วๆไป แต่!!! มันอร่อยมากค่ะ จ๊ะจ๋าทานคนเดียวเกือบหมดหนึ่งจานเลยก็ว่าได้ ไข่เจียวกรอบมากๆ แต่ตรงกลางก็จะมีความนุ่มนิดๆให้รู้สึกถึงเนื้อไข่เจียว รสชาติก็จะเค็มๆ ทานกับข้าวสวยร้อนๆก็อร่อยแล้ว เคล็ดไม่ลับของทางร้านก็คือไข่เจียวอร่อยๆจานนี้ใช้น้ำมันหมูที่ร้อนจัดทอดในหม้อให้ไข่ฟูกรอบขึ้นมา บอกเลยว่ามาร้านนี้ห้ามพลาดไข่เจียวค่ะ
ไข่ปูผัดพริกขี้หนู ( 320 บาท )
เมนูนี้รสชาติจัดจ้าน เผ็ดจากพริกขี้หนูสวน มันๆดีค่ะ กลมกล่อม
เนื้อปูก้อนผัดพริกเหลือง ( 350 บาท )
จานนี้รสชาติจะเผ็ดนำ เผ็ดร้อนเหมาะกับคนที่ชอบทานอาหารรสจัดค่ะ เหมือนทานอาหารใต้ คือจ๊ะจ๋าชอบเมนูนี้มากกกก กวาดเรียบเลย ทานกับไข่เจียวยิ่งเข้ากัน
ตับหมูผัดพริกแห้ง ( 180 บาท )
เมนูนี้โนคอมเม้นสำหรับจ๊ะจ๋าค่ะ เพราะไม่ทานตับ แหะๆ แต่พี่ๆที่มาด้วยกันก็บอกว่าอร่อยนะคะ ทานกันหมดภายในพริบตา
แกงรัญจวนเนื้อ ( 250 บาท )
เป็นแกงโบราณสมัยรัชกาลที่ ๕ เนื่องจากมีกะปิค้างคืน แล้วสมัยนั้นก็ไม่นำอาหารไปเททิ้งขว้าง ก็เลยนำมาทำแกง
จ๊ะจ๋าก็พึ่งจะรู้จักกับแกงรัญจวนวันนี้ล่ะค่ะ แต่ว่าถ้วยนี้ดันเป็นเนื้อก็เลยไม่ได้ชิมค่ะ ทางร้านใช้เนื้อร่องซี่โครงวัว เพราะมีมีเอ็น มีเนื้อ แต่ถ้าใครที่ไม่ทานเนื้อเหมือนจ๊ะจ๋าก็สั่งเป็นหมูได้ค่ะ
ดอกขจรผัดไข่ ( 120 บาท )
เมนูนี้ก็ใช้น้ำมันหมูผัดค่ะ อร่อยอ่ะ เป็นรสชาติที่เบาสุดในมื้ออาหารนี้ค่ะ
ซี่โครงหมูหมักซอสบาร์บีคิว ( 380 บาท )
เมนูนี้อร่อย หมูหมักเนื้อนุ่ม รสชาติจะหวานๆหน่อย
ผัดไทยกุ้งแม่น้ำย่าง ( 280 บาท )
รสชาติของผัดไทยจะแตกต่างจากที่อื่นนิดหน่อยตรงที่สูตรของทางร้านใส่เต้าเจี้ยวเข้าไปด้วย ก็จะมีรสชาติและกลิ่นของเต้าเจี้ยวขึ้นมา เส้นหนึบๆ แต่จ๊ะจ๋าว่าจานนี้แอบเส้นเละไปนิดนึงค่ะ กุ้งแม่น้ำสดอร่อยดี โดยรวมก็อร่อยดีนะ
มื้อนี้อิ่มพุงป่องกลับบ้านเลยทีเดียว
ของคาวเสร็จแล้วก็ต่อกันด้วยของหวานค่ะ ทับทิมกรอบ ( 80 บาท )
ในถ้วยทับทิมกรอบนี้มีกลีบดอกกุหลาบด้วย แต่สามารถทานได้นะคะ เป็นดอกกุหลาบออแกนิค ถ้วยนี้อร่อยมาก น้ำกะทิครีมมี่ หอมเทียนสุดๆ
ก่อนจะกลับก็มีพี่ๆสั่งกาแฟมาดื่มกัน จ๊ะจ๋าเลยขอถ่ายรูปมาสักหน่อย อิอิ
ลูกค้าที่มาทานร้านนี้ก็จะมีทั้งคนไทยและต่างชาติค่ะ อย่างช่วงเวลาเที่ยงๆก็จะเป็นพนักงานออฟฟิศที่มาทานกับหัวหน้า ช่วงบ่ายๆก็จะเป็นแม่บ้านญี่ปุ่นมานั่งพูดคุยกัน ตอนเย็นๆก็มีมานั่งทานข้าว แฮงค์เอาท์กัน เพราะที่นี่มีค็อกเทลด้วยนะ ยิ่งดึกเพลงก็จะยิ่งมันส์ค่ะ เสาร์-อาทิตย์ก็จะเป็นแบบครอบครัวมาทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน เป็นร้านอาหารไทยที่รสชาติอร่อยถูกปากดีค่ะ ทุกจานมีความพิถีพิถัน ใส่ใจในรายละเอียด
